วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ดอกไม้ประดับสภา

ดอกไม้ประดับสภา

กลอนเจ็ด

ใครว่าหญิงสวยไร้สมอง ใครมองหญิงงามว่าเหลวไหล

สวยด้วยเก่งด้วยมีถมไป ใช่เพียงดอกไม้ในอุ้งมือ

การเมืองเรื่องเพศไยเกี่ยวข้อง เป็นของผู้ชายเท่านั้นหรือ

คงลืมเลือนแล้วกระนั้นฤๅ ก่อนกาลหญิงคือผู้นำชน

บูชาแม่เมืองทุกหมู่บ้าน สังคมเคลื่อนผ่านพลันถูกปล้น

อำนาจผันสู่บุรุษพล อ้างหญิงมิทนทั้งอ่อนแอ

แท้กลัวพลังของเพศหญิง เปลี่ยนโลกได้จริงเพราะแน่วแน่

อ่อนนอกแข็งในใช่ปรวนแปร ยัดเยียดให้แพ้เป็นผู้ตาม

ผูกขาดความคิดทางการเมือง เป็นเรื่องโหดยิ่งสิ่งต้องห้าม

บัดสีบัดซบและต่ำทราม มิควรหญิงงามมาเกี่ยวพัน

ปล่อยชายป้ายสีเอาโคลนสาด ชี้หน้าด่ากราดฟาดห้ำหั่น

มองตาเหยียบเท้ารู้เท่าทัน งาบงบงกงันเพียงเพื่อเงิน

อ้างว่าการเมืองสกปรก แม้ขุมนรกยังอายเขิน

นารีอย่าล้ำมากล้ำเกิน ชนไป่สรรเสริญสดุดี

ช่างเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทายท้า หญิงต้องอาสามาที่นี่

ให้โลกวัดใจว่าใครนี้ ควรคู่เวทีแห่งสภา

พบแต่สูทดำเต็มทำเนียบ สายตาเย็นเฉียบเลือดกายฉ่า

กี่ล้านทุ่มไปต้องกลับมา ถกแต่ปัญหาของตัวเอง

ต่อสู้อุปสรรคกี่ขวากหนาม คำถามมิใช่ว่าใครเก่ง

พื้นฐานกานดานั้นกลัวเกรง ไป่กล้าข่มเหงโกงกินใคร

ยิ่งกว่าฝันร้ายของชีวิต แค่คิดก็ขื่นเกินขานไข

ความยากแสนยากกว่าสิ่งใด กว่าจักตัดใจเล่นการเมือง

อ้าปากครั้งใดใครก็ค้าน หักด่านความขลาดกี่ร้อยเรื่อง

แสนเงาความเขลาเฝ้าขุ่นเคือง ใจเขื่องคอขาดแทบบาดตาย

สู่หอคอยเศร้าคล้ายงานศพ มืดทิศมิดทบเมื่อมองหมาย

สูทดำหุ้มใจหรือเพียงกาย สุสานคนวายหรือคนเป็น

ป้วนเปี้ยนเวียนว่อนตอมบุปผา ภุมราว้าวุ่นเมื่อแรกเห็น

ค่าเพียงสีสันจรัสเพ็ญ ดาวเด่นดอกไม้ในสภา

เกี้ยวโลมฉอเลาะเอาเงินล่อ จากพรรคไหนหนอพอซื้อหา

เสียงเพิ่มอีกเสียงสู้ราคา หมายแค่ยื้อมาเสริมบารมี

คงคิดว่าหญิงนั้นซื้อง่าย ปากเสียงเงียบหายไร้ศักดิ์ศรี

มองเชิงชู้สาวคาวโลกีย์ เป็นข่าวทันทีใกล้ชิดใคร

ลดาดอกสวยอาจแสบสันต์ โชยกลิ่นฉุนคันอีกหนามไหน่

กรีดเหน็บเจ็บหนองต้องช้ำใน ครวญขื่นคาวไข้ให้ระวัง

สังคมอนาคตจักเข้มแข็ง ด้วยแรงอิตถีที่ล้นหลั่ง

อ่อนโยนลุ่มลึกเปี่ยมพลัง บุปผาสะพรั่งเต็มสภา

ขอเปิดพื้นที่ให้เพศหญิง ได้พูดความจริงอันหาญกล้า

แก้ข้อข้องขัดด้วยปรัชญา ตกผลึกแลกมาประสบการณ์

หากมีดอกไม้ล้นทำเนียบ ได้เปรียบเสียเปรียบคงมองผ่าน

ช่องว่างเหลื่อมล้ำแห่งวันวาน จักแนบใจสมานด้วยสองเรา

สุสานงานศพพลันเปลี่ยนสี แซมด้วยมาลีเฉิดเฉลา

ย้ายสวนบุษบรรณอันยวนเย้า มาเฝ้าถ่วงดุลการเมืองไทย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น