วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ผ้าสีขาว

ผ้าสีขาว

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

ตราบกังสดาลก้อง ชิวะต้องผละจากเตียง

สงฆ์ลั่นระฆังเรียง เสนาะเสียงสหายธรรม

ตื่นก่อนตะวันขึ้น กิจวัตรจรดค่ำ

หุงข้าวสำรวมคำ สิประจำ ณ ห้องครัว

ลาเพศฆราวาส ภวะใหม่มิหมองมัว

ห่มขาวและโกนหัว บริสุทธิดุจดัง

ถือศีลอุโบสถ สละลดกิเลสหวัง

ผองชนฉงนชัง อนิจังอนาถใจ

มุ่งหมายอบายตัด อรหัตตผลไกล

เหตุบวชเพราะเห็นภัย มรณันตรายรอ

หลบหนี้ฤหนีช้ำ วจิย้ำประณามหนอ

ไร้เพื่อนพะนอคลอ อตคัดบุรุษเคียง

ทนสู้สภาพเพศ ทุรถ้อยมิเคยเถียง

แม่ชีสิค่าเพียง ธุลิทาสพระธรรมา

อาศัยวิสุงคาม ชนหยามก็ก้มหน้า

ก้นบาตรอนาถา อนุโมทนาหมาย

ฝืดเคืองศฤงคาร ธนสารมิติดกาย

โรงครัวสิโรงตาย นิตย์ภัตบเคยมี

นึกนึกก็น้อยใจ เพราะมิใช่ภิขุนี

ผิดนิดสิเสียดสี ชิวภาพประทังปลง

เฝ้าคอยประคองจิต มิสนิทเสน่ห์สงฆ์

สังคมก็แคบลง มรสุมมโนราญ

เกือบแล้วนิราศลา บ่ปวารณามาน

มาบวชมิเบิกบาน กรกรานวิหารา

คืนสู่อุบาสิก คฤหัสถ์มิคบหา

ผิดหรือชะตาพา ภวะเพศบเท่าเทียม

ฉวยเส้นด้ายเส้นสุดท้ายสุดสายป่าน

ปรารถนานฤพานยังท้นเปี่ยม

บทพิสูจน์ผ้าสีขาวจะหม่นเกรียม

หรือจักเตรียมฤทัยเร่ล่องเภตรา

เจ้าดวงใจไยจึงย้อนกลับทางเก่า

ทางที่กรุ่นร้อนเร่าใช่ดีกว่า

ผ้าสีใดย่อมแปดเปื้อนเหมือนผ้ากา

สาวพัสตร์ตราบน้ำตานองอกตรม

หยิบผ้าขาวมาซักรีดยิ่งซีดหมอง

มิอาจลบจิตขุ่นข้องแม้ฝืนข่ม

พับเก็บผ้าหลากสีมิปรารมภ์

ผ้าขาวห่มคลุมอีกครั้งทั้งวิญญาณ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น