วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

นิราศลูก

นิราศลูก


โคลงสี่สุภาพ




มองดาวแม่หลั่งน้ำ           เนตรไหล

ลูกรักเป็นไฉน                 ป่านนี้

จารกวีจากเมืองไกล        หมายกล่อม

ฝันว่าชวนลูกชี้                ชื่นด้าวชมเดือน


ใครใครกอดลูกแก้ว        เคียงกัน

แม่กลับพรากจอมขวัญ   จากคล้อย

ภาระมากเกินพรรณ-       นาหมด

ขอฝากเจ้าหญิงน้อย        แนบฟ้าดินเขนย


เติบโตในอุ่นอ้อม           อกตะวัน

มีแม่ผิดสามัญ                 มนุษย์แม้น

เดินทางท่องสวรรค์        ถึงนรก

หมองหม่นทุกข์แร้นแค้น       มุ่งค้นคติหมาย


สัญจรเหนือจรดใต้         ดังนก

ตะวันออก-ตะวันตก      เตร็ดร้าง

วิถีแห่งปริพาชก ไร้ถิ่น  ฐานเฮย

จารจรดบทกวีสร้าง        สืบไว้วรรณศิลป์


ประสบการณ์กระหวัดร้อย      รินโคลง

หวานร่ำฉ่ำชื่นโยง           รสช้ำ

แผ่วโผยสู่ผางโผง           ทุกผัส สะแฮ

จังหวะไป่เคยซ้ำ              หลากล้านเรื่องเห็น




บางครั้งเจ้าอยู่ด้วย          บิดา

ชนเผ่าจากดอยผา           พี่เลี้ยง

ศิลปินอุบาสิกา               ล้อมกอด

แขกฝรั่งช่วยกล่อมเกลี้ยง        คดข้าวป้อนนม


บางหนแม่หอบหิ้ว          ลูกกระเตง

ตะลอนแดดปุเลงปุเลง         ร่วมด้วย

เดือนตกลูกล้มเขลง             นอนตัก

ดึกดื่นชีพแทบม้วย              ชุบด้วยมือธิดา


พานพบคนแปลกหน้า        เนืองนอง

ราวเด็กไร้เจ้าของ                เร่คว้าง

คือสนามค่ายทดลอง          เรียนลัด

ขอบจักรวาลไกลกว้าง       กว่านี้เกินคะเน


กินง่ายอยู่ง่ายไร้              ปัญหา

ไป่เลือกรสสรรพา          เผ็ดร้อน

ผูกมิตรกับพารา              รักแผ่

เว้นแต่ยามค่ำอ้อน          ยากโอ้โลมนอน


ไยแม่ชอบเริดร้าง           ลูกฉงาย

สำรวจซากปรักสลาย     สถูปร้าง

จากท้องถิ่นกำจาย          สู่โลก

กอบเศษดินหินสร้าง      ซ่อมหน้าตำนานแซม


มิใช่ว่าแม่นี้                  มุ่งงาน

แท้ทุ่มจิตวิญญาณ       เพื่อเจ้า

เราต่างก็สาธารณ์        ไร้ราก

แทนทดแผ่นดินเหง้า       เผ่าเบื้องบรรพชน




ลึกลึกอยากใกล้ลูก          มิคลาย

แม่แบกพันธะหมาย        ไขว่คว้า

เมืองที่ลูกเกิดกาย            ถูกกลบ

แม่หาบคอนบ่าล้า           พลิกฟ้าคว่ำดิน


มีแม่เป็นแบบก้าว              เดินตาม

จักหล่นไกล-ใกล้ ถาม     ลูกไม้

ฝังรากผลิดอกงาม            อนาคต

มิวาดมิหวังไว้           มอบเจ้าตัดสิน


ชีวีแม่เฉกด้วย           เดียวกัน

ใครขีดชะตาสรร      เสกให้

เดินทางเสาะหาฝัน  ทุกซอก

เจ้าจักเป็นลูกไม้       ห่างใกล้ไกลเสมือน


อยากตามรอยแม่แม้น       มรคา

ยิ่งใหญ่ใช่ยศถา            กระหยิ่มเย้า

เสียสละรักศรัทธา        มนุษยชาติ

คุณค่าในตัวเจ้า             แจ่มแจ้งศักดิ์ศรี


กินเดินนอนนั่งก้าว             สติตรอง

ทุกขณะประคับประคอง     จิตตั้ง

อำนาจแห่งเงินทอง             ห่อนเที่ยง

ปราดเปรื่องปัญญาทั้ง         มิตรแท้ธรรมถวิล


พลังจิตเจ้าแกร่งกล้า          เกินวัย

ไม่ติดแม่เสมอไป              ห่างบ้าง

เป็นภูมิปกคุ้มภัย                คราพราก

รักลูกมิลาร้าง                    โปรดรู้รักนิรันดร์




หวานใจของแม่นี้              หนึ่งเดียว

มัดจิตกระหวัดเกลียว        แม่ใกล้

ไกลหนคะนึงเหลียว         หาลูก

ฝันกอดนอนแนบไคล้      ค่ำนี้ขับนิทาน


ใจแม่เพิ่งรู้จัก                    ความหวาน

มอบหมดกมลมาน           มิ่งแก้ว

เพียงคิดจิตเบิกบาน          บริสุทธิ์

คำตอบค้นพบแล้ว           รักนั้นคือไฉน


เจ้าสอนแม่ลิ้มรส              บทเรียน

คาวหื่นทั้งคลื่นเหียน       คับท้อง

เก้าเดือนดุจเปลวเทียน     ทอปลั่ง

แม้ร่างอันงามต้อง            เคลื่อนคล้อยครรโภทร


เกิดมารู้ค่าคุ้ม                   ของมนุษย์

บรรลุถึงที่สุด                   ปวดร้าว

รอดตายอย่างหวิดหวุด    ร้องหวีด

หลังคลอดเหมือนฝ่าก้าว   ฝั่งพ้นกรรมหญิง


         รอยยิ้มบรรเจิดจ้า           เยือกใจ

หวานกว่าดาริกาไหว              สว่างด้าว

ความทุกข์ยากครรเจเครรไล  ยิ้มลูก

ชโลมอาบหทัยร้าว                  แม่ไร้ระทมแรม


จึงเขียนโคลงบทนี้        แด่ขวัญ

รู้ว่าลูกรอวัน                 แม่ไคล้

กลับมาร่วมดื่มฝัน        อุดมคติ

พลังรักผลักแรงให้       แม่ร้อยกวีหวาน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น