แม่ญิงมอญ
โคลงสี่สุภาพ
ลอยเรือมาแต่หล้า เมืองตะเลง*
ตรละแม่*ขับครวญเพลง ปี่ฆ้อง
ไกลคามจิตครื้นเครง จะเข้กล่อม
พิณพาทย์เปิงมาง*พร้อง โห่ร้องมโหรี
นอนกลางดินกอดด้าว กลึงดิน
ขุมทรัพย์แปลงจากสิน เสกปั้น
โชกโชนเชี่ยวชาญชิน ศิลปะ
ไหโกศคนโทชั้น เลิศแม้นปฏิมา
อารยันเยือนสู่อ้อม อุษาคเนย์
เรือเทียบริมทะเล ทวีปกว้าง
กลืนชนเผ่าพื้นเพ ผีป่า
กอบชาติแปงเวียงร้าง วาดรุ้งทวารวดี*
ฉายากรีกแห่งเบื้อง บูรพา
เรืองรุ่งร้อยศาสนา ส่องล้ำ
ศูนย์รวมพุทธปรัชญา พราหมณ์พรต
ยิ่งใหญ่ยิ่งตอกย้ำ หยัดด้วยแดนขยาย
สาละวินไหลเชื่อมข้าม ชี โขง
ป่าสัก เจ้าพระยาโยง ไป่ยั้ง
อิระวดีตราบสะโตง ระมิงค์ระมาด
ปิง น่าน วัง ยม รั้ง เหนี่ยวไร้แรงขืน
เคยเยือนมอญพี่น้อง เครือญาติ
เวียงหริภุญช์ผงาด พร่างรุ้ง
หงสาวติ*นิราศ แรมตัก
ลอยหะโมด*เรือเชื่อมคุ้ง ประทีปข้ามสองนคร
สายธารยังเปลี่ยนเส้น ทางไหล
พังพาบกรุงเกริกไกร กลบพื้น
รามัญวูบดับไหว สุวรรณทวีป
ดินฉ่ำน้ำค้างชื้น ชุ่มด้วยชลนา
กลายเป็นมอญสิ้นชาติ สูญชน
ไร้แผ่นดินแรมพล เผ่าร้าง
พรายพลัดท่ามหมู่คน ไทย-ม่าน
ไหโกศลอยเคว้งคว้าง ดับเส้าดินสูญ
แม่ญิงมอญซ่อนผ้า เสาหงส์
สัญลักษณ์รามัญวงศ์ ผูกไว้
เปลือยผมปลิดใจปลง สังเวช
ตรละแม่ขับเพลงไม้ ดึกไห้เดือนหวน
ท้ายครัวยังชีพด้วย สมถะ
ข้าวแช่อันโอชะ ใช่เว้น
ปลากริม ซ่าหริ่มคละ ข้าวควบ*
ลอดช่อง ขนมเส้น* แลกน้ำมือนาง
มะเมีย*เคยเกลี่ยเส้น เกศสยาย
เช็ดบาทยอดรักถวาย สวาทช้ำ
หญิงมอญมอบมานหมาย หทัยมุ่ง
ทูนเทิดความรักล้ำ มาดไร้เมืองแรม.
คำอธิบาย
ตะเลง* หรือเมืองตะเลงคณา อยู่ในอินเดียตอนใต้ เป็นกลุ่มชนชาวอินเดียยุคแรกๆ ที่อพยพมาตั้งรกรากในสุวัณณภูมิ เมื่อผสมผสานกับคนพื้นเมืองจึงกลายเผ่าพันธุ์เป็นมอญ หรือรามัญ
ตรละแม่* ภาษามอญใช้คำว่า ตรละแม่ - ตรละพ่อ นำหน้าชื่อบุคคลชั้นสูง
เปิงมาง* กลองหนังของชาวมอญ ใช้ตีร่วมกับตะโพนในวงปี่พาทย์ ต่อมาชาวล้านนาได้รับวัฒนธรรมด้านเครื่องดนตรีชนิดนี้ไปใช้
ทวารวดี* เป็นชื่อสันนิษฐานของนักโบราณคดี ใช้เรียกอาณาจักรเริ่มแรกในสุวัณณภูมิบริเวณตอนกลางของประเทศไทยปัจจุบัน เชื่อกันว่าประชากรส่วนใหญ่ของอาณาจักรเป็นชาวมอญ ต่อมาค่อยๆ ขยายอาณาเขตไปทั่วทุกภูมิภาค
หงสาวติ* คือเมืองหงสาวดี ศูนย์กลางอารยธรรมมอญฟากตะวันตกเมื่อครั้งอดีต ในขณะที่หริภุญไชย (ลำพูน) คือศูนย์กลางอารยธรรมมอญฟากตะวันออก
ลอยหะโมด* หะโมด หรือหะมด เป็นภาษามอญ หมายถึงดวงไฟ (คือโขมดในภาษาเขมร) ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๕ เคยเกิดอหิวาตกโรคครั้งใหญ่ในหริภุญไชย ประชาชนได้หนีอพยพไปอยู่หงสาวดีนานถึง ๖ ปี จากนั้นจึงกลับมาตุคาม ยามฤดูน้ำหลากชาวมอญสองเมืองต่างคิดถึงกัน พลันเกิดประเพณีลอยดวงไฟใส่เรือสำเภาล่องผ่านแม่น้ำปิงจากหริภุญไชยตัดไปสู่แม่น้ำสายต่างๆ จนถึงญาติพี่น้องชาวมอญในหงสาวดี ซึ่งนักประวัติศาสตร์หลายท่านเชื่อว่านี่คือต้นกำเนิดของประเพณีลอยกระทง
ข้าวควบ* เป็นภาษาเหนือ ภาคกลางเรียกข้าวเกรียบว่าว
ขนมเส้น* ภาคกลางเรียกขนมจีน
มะเมียะ มะเมียะเป็นชาวมอญ มาจากเมืองมะละแหม่ง ซึ่งผู้หญิงมอญมีวัฒนธรรมการสยายเส้นผมเช็ดเท้าสวามี เห็นได้จากรูปพระนางพิมพายโสธราสายเกศาแทบพระบาทเจ้าชายสิทธัตถะตอนเสด็จออกมหาภิเนษกรม (ผนวช) ปรากฏในภาพจำหลักใบสีมาเมืองฟ้าแดดสงยาง กาฬสินธุ์ ศิลปมอญทวารวดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น