วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อุปรากรอันนัม

อุปรากรอันนัม

โคลงสี่สุภาพ

เรียมแรมแอม*อกร้าง อาย*เอย*

เวียงล่มไร้วังเขนย นิราศเว้*

อันนัม*ร่ำนวลเอ๋ย นางเอก

ตกอับราวหญิงเหร้ นักร้องเวียดนาม

ครวญเพลงเตรงตรึ่มตร้อย* ญาตรัง*

รินร่ำเรื่องราวหลัง เรื่อรุ้ง

ดูเดือนดึกแดดัง ดาวดับ

คาวกลิ่นแดนดินคลุ้ง ขื่นไข้สงคราม

อายเอยเคยอยู่ด้วย แอมอิง

ชายชาติเกณฑ์ไปยิง ห่างเหย้า

เป็น-ตายไป่รู้จริง สูญสาบ

หลุมศพใดกลบเจ้า โปรดแจ้งใจเฉลย

แอมจรจากรั้วราช สำนัก

ถึงคู่ที่เคยรัก คลาดร้าง

มิอาจมอบใจปัก ชายอื่น

ชนชื่นชมเอ่ยอ้าง เลิศแท้นารี

สังเวยศึกหมดสิ้น อายเอ๋ย

ชาวเวียดชวดชายเชย สวาทชู้

หญิงหม้ายขาดอิงเขนย หนาวอก

ครองโสดบ่คิดสู้ กฎห้ามทวิวิวาห์

หนีตายพรายพลัดน้อง สองสาว

ลอยเร่ฮาลอง*ราว ฝั่งไร้

ถึงเมืองถิ่นกาขาว แคลนหมิ่น

พลโลกชั้นสามไซร้ เศษเสี้ยนผิวสี

นานครายินข่าวน้อง หนอแอม

คนหนึ่งขายเฝ๋อ*แหนม* แน่นร้าน

คนพี่ร่ำเรียนแซม สถานภาพ

สาวบริษัทใช่แม่บ้าน เลื่อนชั้นสังคม

คงแต่นางเร่คว้าง เพลงครวญ

เชิดหุ่นรำพันหวน อดีตโพ้น

เชิญชนร่วมเชื้อชวน รักชาติ

ชาวเวียดนามก่อนโน้น หนึ่งอ้างอันนัม

เฉกมังกรเก้าชีพ ฉายา

หยิกเล็บเจ็บมังสา ซ่อนเขี้ยว

เฆี่ยนสลบกี่ครั้งครา ลุกขู่

ตวัดร่างเพียงหนึ่งเลี้ยว ร่องน้ำเพลิงมหรรณพ์

เมืองแมนแดนแม่เจ้า ทั้งสาม

แม่ป่าแม่ดินคาม แม่ฟ้า

บูชาก่อนพุทธพราหมณ์ คาทอลิก

สามแม่ปกปักหล้า ปลอดพ้นภัยสูญ

มโหระทึกกลองศพด้าว ดองซอน*

สำริดสลับสลอน สนั่นหล้า

ขุมทรัพย์แอ่งนาคร อุษาเขต

หน้าต่างดงตลาดค้า ฝั่งคุ้งอินโดจีน

จามปา*เมืองเทพสร้าง ไมซอน*

วิษณุจักรสวรรค์จร สู่อ้อม

กอดดินเสกอัปสร สวยดั่ง นิมิตนา

นาฏกะลีลาล้อม ถับ*หล้าตราเกียว*

นางเผลอเช็ดพักตร์ช้ำ ชลนา

ถึงท่อนเทวษสา- หัสแท้

ยุคทองแห่งจามปา จรเปลี่ยน

จารจรดคำว่าแพ้ พ่ายซ้ำพันสมัย

มีพ่อเป็นรากแก้ว สันสกฤต

จีนแม่แผ่พิชิต รากหญ้า

ฝรั่งเศสเสกจริต ลืมราก

ชนแบ่งดินแยกฟ้า เชือดด้าวแดนสอง

แนวคิดมาร์กซิสต์ข้าม หมอกทะลวง

เสมอภาคเพียงแดนสรวง ไพร่-เจ้า

วนในม่านเงาลวง สามทศ วรรษนอ

ดีกว่ายอมกราบเท้า สยบเกล้าอเมริกา

หอมเอยหอมกลิ่นเย้า กำยาน

ชนจุดปูชาจารย์ ปุรุษกล้า

โฮจิมินห์ปลดแอกอาน คืนอิส ราแฮ

วันลับน้ำท่วมหล้า จากล้านใจสลาย

วันนี้เราตื่นแล้ว เวียดนาม

สาวหนุ่มมังกรหนาม ขู่ฝู้

เกร็งขาอย่าเกรงขาม รุกฆาต

ผ่านยุคคูปองรู้ รสข้าวไข่ฟอง

ร้องเพลงท่อนสุดท้าย หญิงชรา

เกือบสหัสวรรษา ฝ่าก้าว

อ๋าวส่าย*ซับน้ำตา จนซีด

ปลดเรื่องเคยปวดร้าว ประจักษ์แจ้งปัจจุบัน

กามเอิน*คารวะด้วย ใจจริง

เสียงอุปรากรหญิง กู่ย้ำ

บทเพลงทุกโศลกอิง อมตะ

หมายชุบอันนัมช้ำ ชื่นน้ำใจสมาน.

คำอธิบาย

แอม* น้องหญิง ใช้เรียกแทนหญิงสาวที่อ่อนอาวุโสกว่า

อาย* พี่ชาย คล้ายคำว่า อ้าย ในภาษาไทย ใช้เรียกบุรุษเพศที่มีอาวุโสกว่า

เอย* รากศัพท์มาจากสันสกฤตเหมือนคำว่า เอย ของไทย หมายถึงน่าอภิรมย์ เป็นคำต่อท้ายเวลาใช้เรียกขานชื่อคน

เว้* เมืองหลวงเก่าร่วมสมัยกับอยุธยาและต้นรัตนโกสินทร์ ก่อนที่เวียดนามจะถูกฝรั่งเศสเข้ายึดครอง

อันนัม* ชื่อดั้งเดิมของเวียดนามตอนเหนือ

เตรงตรึ่มต้อย* จังหวะดนตรีของขิม

ญาตรัง* เมืองท่าชายทะเล เคยรุ่งเรืองในอดีต

ฮาลอง* อ่าวฮาลองเบย์ ฉายาดินแดนหมื่นแสนเกาะสวรรค์

เฝ๋อ* ก๋วยเตี๋ยว

แหนม* เปาะเปี๊ยะ

ดองซอน* แอ่งอารยธรรมยุคสำริด พบกลองมโหระทึกจำนวนมาก ร่วมสมัยกับอารยธรรมบ้านเชียง

จามปา* มหาอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของชนเผ่าจามเมื่อพันกว่าปีก่อน มีศูนย์กลางอยู่ตอนกลางประเทศ ใกล้เมืองดานัง ฮอยอันในปัจจุบัน

ไมซอน* หรือ มีเซิน แหล่งโบราณสถานสำคัญของศิลปกรรมสมัยจามปา

ถับ* เหมือนคำว่า ทับ ในภาษาไทย หมายถึง ปราสาทหรือสถูป

ตราเกียว* ชื่อยุคสมัยของศิลปะจามปาอันเป็นยุคทอง และเป็นชื่อเฉพาะของสถูปหลังหนึ่งที่สลักรูปนางอัปสรฟ่ายฟ้อนงดงามมีชีวิตจิตใจ

อ๋าวส่าย* ชุดประจำชาติของสตรีภาคเหนือเวียดนาม ส่วนเวียดนามทางภาคใต้อ่านว่า อ๋าวหย่าย

กามเอิน* ขอบคุณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น