วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ผ้าคลุมผืนนั้น

ผ้าคลุมผืนนั้น

กาพย์ฉบัง ๑๖

ภายใต้ผ้าคลุมผืนนั้น คือสิ่งไรกัน

ระหว่างรันทด-งดงาม

แอบมองมานานใคร่ถาม แต่ยังคอยปราม

หักห้ามมิกวนใจเธอ

ทุกครั้งที่ผ่านยามเผลอ อยากรู้เสมอ

ได้แต่เพ้อจินตนาการ

ผ้าคลุมร้อยถักสลักสาน ลวดลายอ่อนหวาน

ซ่อนงำตำนานอันใด

ปกปิดเรือนผมริ้วไร เร้นเพียงแก้มใส

ตาคมคิ้วเข้มปากเรียว

คือผ้าคลุมโลกผืนเดียว ฉุกให้ชนเหลียว

สำรวมรู้รสอดทน

ไป่ต้องทุรายทุรน เพรียกใครมาสน

สรีระเส้นผมอำพราง

โลกลวงหลอกล่อหลงทาง ผู้คนครวญคราง

เสกสร้างเกศาไฉไล

เราต่างไม่เคยพอใจ อยากมีแพรไหม

ณ ยุคบริโภคนิยม

ผมหยิกอยากเหยียดคลายปม ฝอยฟูลู่ลม

ขาวหงอกขื่นขมร่วงราง

ธรรมชาติให้มาหม่นหมาง ล้านดกหนาบาง

แดงดำน้ำตาลเหลือบทอง

แค่ทุกข์เรื่องคราบไคลหมอง ก็เหม็นเกินมอง

ยังต้องประคองความงาม

เหตุนี้ตถาคตจึ่งข้าม เนรัญชลาคาม

ปลงผมแนบฝั่งมหานที

พินิจโทษแห่งเกศี กวักเพรียกโลกีย์

ชวนชี้ชิมห้วงสิเนหา

อิตถีถ้วนล้วนทาสา ทุกข์โถมกามา

มนตราวิโยคโศกศัลย์

ภายใต้ผ้าคลุมผืนนั้น จารีตผูกพัน

แปรผันเป็นภาพความงาม

จักมองร่ำไปไป่ถาม รู้แล้วนิยาม

สัจธรรมก้าวข้ามมายา.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น